ถ้าหากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณเดือนมี.ค.-พ.ค.) ปี 2020 หรือปีหน้านี้ ทันทีที่เพื่อนเดินทางมาถึงเพิ่งลงจากสนามบินนานาชาตินาริตะ และกำลังอยู่ในขั้นตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วลก็ เพื่อนๆ อาจจะแปลกใจ และได้เห็นว่าที่สนามบินนาริตะแห่งนี้จะเริ่มมีการนำเอาเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (facial recognition) มาใช้คัดกรองผู้โดยสารขึ้นเครื่องแทนการตรวจพาสปอร์ตและบอร์ดิ้งพาสด้วยแหละครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ไฮเทคมากๆ เพื่อที่จะรอต้อนรับมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพอยู่นั่นเอง
ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้วกับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่ตอนนี้ทางญี่ปุ่นได้เริ่มนับถอยหลังสู่การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนปีนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะเดินทางมาร่วมงาน ซึ่งด่านแรกสุดของการต้อนรับเมื่อเหล่าแขก นักท่องเที่ยว หรือนักกีฬาททั้งหลายจะต้องเจอก่อนก็คือสนามบินนั่นเอง โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นอย่างสนามบินนานาชาตินาริตะ ก็ได้เตรียมนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารด้วยแหละ ซึ่งก็คือเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าอันนี้นี่เอง โดยจะมาใช้ในการตรวจยืนยันบุคคลแทนระบบตรวจเอกสารเดินทาง(พาสปอร์ตและบอร์ดิ้งพาส) แบบเดิม
ซึ่งในระบบใหม่นี้ จะมีการถ่ายรูปผู้โดยสารทุกคนที่เคาน์เตอร์เช็คอินด้วยตัวเอง หลังจากนั้นข้อมูลดิจิทัลของรูปถ่ายจะถูกส่งไปยังจุดโหลดกระเป๋าเดินทาง จุดตรวจความปลอดภัย และที่เกทรอขึ้นเครื่อง ซึ่งแต่เดิมตามจุดเหล่านี้ จะต้องมีพนักงานของสนามบินคอยตรวจเอกสาร และทำให้เกิดการกระจุกตัว และเสียเวลา แต่ในระบบใหม่นี้ จะมีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงไว้ที่จุดต่างๆ เหล่านี้ เพื่อสแกนใบหน้าของผู้โดยสารว่าตรงกับที่ถ่ายไว้ที่เคาน์เตอร์เช็คอินหรือไม่ ซึ่งก็จะทำให้การเคลื่อนย้ายผู้โดยสารภายในสนามบินทำได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วขึ้น เพื่อเอารองรับจำนวนมหาศาลของเหล่านักท่องเที่ยวที่จะเข้ามารับชมมหกรรมกีฬาครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ณ ที่กรุงโตเกียวแห่งนี้นี่เอง
ใครที่คิดว่าพอเปลี่ยนเทคโนโลยี เปลี่ยนวิธีการตรวจผู้โดยสารแล้วจะยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิมสำหรับนักท่องเที่ยวละก็ ไม่ต้องห่วงครับ เพราะขั้นตอนการตรวจเอกสารการเดินทางที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองยังจะคงไว้เช่นเดิมอยู่ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงทั้งพาสปอร์ตและบอร์ดิ้งพาสกับเจ้าหน้าที่ตามปกติเหมือนเดิมเลย
ในขั้นแรกนี้ สนามบินนาริตะจะเริ่มทดลองใช้ระบบใหม่กับสายการบิน All Nippon Airways และ Japan Airlines ก่อน เพื่อตรวจสอบข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และนำไปปรับปรุงก่อนที่จะนำเอาระบบใหม่นี้ไปใช้จริงกับทุกสายการบินในภายหลัง
เพื่อนๆ คนไหนที่ไปญี่ปุ่นมาแล้วได้ลองใช้กับระบบการจดจำใบหน้าแบบนี้ที่นั่น ก็อย่าลืมมาเล่า มาแชร์ มาแบ่งปั่นประสบการณ์ให้พี่ๆ nejavu ได้ฟังด้วยนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะทางผมเองก็ยังไม่มีเวลาไปเช่นกันเลย มัวแต่ทำงาน ฮ่าๆ ^^
แหล่งที่มา:
