ถ้าพูดถึงภาพยนตร์อนิเมชั่นจากค่าย“สตูดิโอจิบลิ” (STUDIO GHIBLI) แล้วละก็ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ชื่อกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโทโทโร่เพื่อนรัก สุสานหิ่งห้อย Spirited Away Howl’s moving castle เป็นต้น ซึ่งแต่ละเรื่องที่ผลงานของค่ายนี้ ซึ่งภาพยนตร์ของที่นี่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของจินตนาการ ให้ข้อคิด และเข้าถึงอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดี ทีนี้เพื่อนๆ อยากรู้หรือเปล่าครับว่า สตูดิโอภาพยนตร์แอนิเมชั่นจิบลิที่มีชื่อเสียงที่สุดชื่อหนึ่งของญี่ปุ่นแห่งนี้ มีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงสามารถทำภาพยนตร์อนิเมชั่นได้ออกมาน่าสนใจหลายเรื่องแบบนี้ ไปดูกันครับ
“สตูดิโอจิบลิ” ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 โดยมีผู้กำกับและนักเขียนบทอย่าง ฮายาโอะ มิยาซากิ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง มีภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำชื่นชมหลายเรื่อง จนทำเอาเราถึงคิดหนักเลยถ้าหากมีถามว่าภาพยนตร์เรื่องไหนที่ดีที่สุดของที่นี่ แต่เอาเป็นว่าวันนี้เราจะมาหยิบยกตัวอย่างภาพยนตร์อนิเมชั่นที่น่าสนใจของที่นี่มาให้ดูกันนะครับ
ถ้าพูดถึงเจ้าโทโทโร่ อ้วนๆ กลมๆ น่าฟัดพุงแบบนี้ เพื่อนๆ ต้องรู้จักแน่นอน เจ้าโทโทโร่มีชื่อเสียงมากจนถึงขนาดเป็น mascot ประจำสตูดิโอจิบลิเลยทีเดียว ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มีทั้งความรักและความอบอุ่น มีจินตนาการของความเป็นเด็กสอดแทรกอยู่ข้างใน เมื่อสองพี่น้องต้องย้ายบ้านมาอยู่ในชนบทเพื่อดูแลแม่ที่ป่วย และได้พบกับโทโทโร่ผู้พิทักษ์ป่า เมื่อพวกเขาได้มาเป็นเพื่อนกัน เรื่องราวสนุกๆ จึงเกิดขึ้น พร้อมๆ กับที่ทั้งสองคนได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับปัญหาของตัวเองด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีชื่อเสียงไม่แพ้ โทโทโร่เพื่อนรัก เหมือนกัน ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์อนิเมชั่นที่คนนึกถึงเป็นเรื่องแรกถ้าหากพูดถึงสตูคิโอจิบลิ โดย Spirited Away เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวแฟนตาซีผจญภัย ที่ผสมผสานเอาเรื่องตำนานและความเชื่อแบบญี่ปุ่นโบราณมาใช้ เรื่องราวของเด็กหญิงจิฮิโระที่ต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่อย่างเสียไม่ได้ ในระหว่างการเดินทางย้ายบ้าน ทั้งหมดได้หลงเข้าไปในโลกของภูต รู้ตัวอีกทีพ่อแม่ของจิฮิโระก็กลายร่างเป็นหมู และรอบตัวเธอก็เต็มไปด้วยภูตผีปีศาจไปเสียแล้ว จิฮิโระต้องหาทางช่วยพ่อแม่และหนีออกไปจากที่แห่งนี้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “ฮากุ” เด็กชายปริศนา การผจญภัยอันเต็มเปี่ยมด้วยความแฟนตาซีสุดๆ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 75 ในสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมมาแล้ว ไม่แปลกใจเลยล่ะครับ ว่าทำไมใครๆ ก็รู้จักเรื่องนี้กัน
จัดเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นอีกหนึ่งเรื่องที่กวาดรางวัลไปมากมายเช่นเดียวกัน ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้มีเนื้อหาสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติ อะชิตะกะต้องออกเดินทางเพื่อหาทางแก้คำสาป และได้พบกับการต่อสู้อันมาจากความขัดแย้งของคนสองกลุ่ม คือฝ่ายเจ้าหญิงโมโนโนเกะและเหล่าสัตว์ป่า ส่วนอีกฝ่ายคือมนุษย์แห่งโลหะนคร ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้คนดูต้องคิดตาม เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ไม่มีฝ่ายที่ดีที่สุดหรือชั่วที่สุด เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตาม มนุษย์กับธรรมชาติก็ยังจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันต่อไป
ตัวละครที่หลายๆ คนต่างก็จดจำได้จากความน่ารักของเธอ เมื่อแม่มดฝึกหัด “กิกิ” ที่มีอายุ 13 ปี พร้อมด้วยแมวดำ “จิจิ” ต้องเดินทางออกมาฝึกเวทมนตร์ในเมืองที่ไม่มีแม่มดคนอื่นอยู่ เธอได้มาเจอเมืองใหญ่ริมทะเลตามที่ฝัน และได้อยู่กับครอบครัวคนทำขนมปัง ได้ขี่ไม้กวาดออกไปช่วยส่งของให้คนในเมือง กิกิต้องปรับตัวให้เข้ากับเมืองใหม่และผู้คนใหม่ๆ ที่ต่างวัยต่างอายุ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายกับเธอในวันที่ต้องสูญเสียเวทมนตร์ไป
ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกัน ชื่อเรื่องนี้ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “ความทรงจำที่ล่วงผ่านราวหยดน้ำตา” ถึงแม้จะเป็นการ์ตูนแต่เน้นความดราม่าสมจริง เรื่องราวของทาเอโกะ สาวออฟฟิศวัย 27 ปี ที่เดินทางไปพักร้อนและใช้ชีวิตเกษตรกรที่จังหวัดยามางาตะ ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ทำให้เธอได้หวนคิดถึงความทรงจำในวัยเด็ก เรื่อวราวจะมีการตัดสลับไปมาระหว่างทาเอโกะในปัจจุบันกับเด็กหญิงทาเอโกะวัยสิบขวบ ท่ามกลางบรรยากาศชนบทที่งดงามทั้งทิวทัศน์และผู้คน ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่าย แต่ก็แอบแฝงถึงวิธีการเล่าเรื่องที่กระทบความรู้สึกถึงการโหยหาบางสิ่งบางอย่างในวัยเยาว์ของเราด้วยเช่นกัน
ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะรู้สึกไม่อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีก เพราะมันมีเนื้อหาที่ค่อนเศร้า และบีบหัวใจมากๆ เศร้าตั้งแต่ชื่อเรื่อง สมกับที่สร้างความสะเทือนใจให้คนทั่วโลกมาแล้ว ความเจ็บปวดจากสงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของพี่น้องเซตะและเซซึโกะ กับชีวิตอันแร้นแค้น และจบลงด้วยด้วยเศร้า แสงของหิ่งห้อยก็เปรียบเหมือนดังความหวังอันริบหรี่ของเด็กๆ
เพื่อนๆ คงเห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่า ผลงานหลายๆ เรื่องของสตูดิโอจิบลิส่วนใหญ่มักพูดถึงสัมพันธภาพของมนุษย์กับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกันเอง ธรรมชาติ เทคโนโลยี หลายเรื่องเหล่าผ่านมุมมองของเด็กๆ ที่ยังคงอยู่ในช่วงวัยที่เปี่ยมล้นด้วยจินตนาการมากกว่าผู้ใหญ่ และหลายเรื่องดำเนินเรื่องโดยใช้ตัวละครผู้หญิง สะท้อนให้เห็นมุมมองความคิดด้านสิทธิสตรีของผู้สร้างสรรค์ผลงานด้วย ดังนั้น ถ้ามีใครบอกว่าการ์ตูนอนิเมชั่นเป็นของสำหรับเด็กแล้วก็ ขอให้หยิบเอาภาพยนตร์อนิเมชั่นจากค่ายจิบลิซักเรื่องไปให้พวกเขาดูได้เลยครับ แล้วจะรู้ว่าภาพยนตร์อนิเมชั่นของค่ายจิบลิในแต่ละเรื่องนั้น มีอะไรสอดแทรกไว้มากกว่าที่คิดเสียอีก
https://www.imdb.com/title/tt0095327
https://www.imdb.com/title/tt0119698
https://www.imdb.com/title/tt0102587
https://www.imdb.com/title/tt0096283