Nejavu logoNejavu logo
Member avatar
0

เก็บตกบรรยากาศภาพรวมภายในงาน “รวมพลคน NED” ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47

1105 วิว0 ความเห็น11 เม.ย. 2562 18:46

DSC01381.JPG

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม – 6 เมษายน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็ได้ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อนๆ เสียเงินกันไปเท่าไหร่กับงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้กันบ้างครับ ฮ่าๆ อย่างต่ำต้อง 1,000 บาทแน่ๆ เลย

แล้วเพื่อนๆ รู้หรือเปล่าครับว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ทาง NED Club ได้จัดงาน “รวมพลคน NED” บนเวทีกลางที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วยนะ ซึ่งภายในงานนี้เราได้มารื้อฟื้นความหลังเกี่ยวกับการ์ตูนขึ้นหิ้งในตำนานอย่าง “ดราก้อนบอล” และ “นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ” พร้อมโปรโมทสินค้าสุดพรีเมี่ยมอย่าง “Dragon Ball Ultimate-Edition Boxset” และ “Naruto Boxset” ภายในงานหนังสือครั้งนี้ด้วยนะครับ

งานนี้บอกเลยว่า ไม่ธรรมดา เพราะเราได้แขกรับเชิญพิเศษ อย่างคุณโป้ - พงศกร ศิริกำเนิด แอดมินเพจ ดราก้อนบอล [Dragon Ball] ที่มีคนติดตามกว่าหนึ่งแสนคน และคุณอุ๊ - อิศเรศ ทองปัสโณว์ อดีตกองบรรณาธิการนิตยสาร Boom ผู้แปลการ์ตูนนารูโตะ และเรื่องอื่นๆ ที่หากใครที่ติดตามอ่านการ์ตูนของทาง NED Club มาโดยตลอด ก็จะเห็นชื่อเขาอยู่ท้ายเล่มอยู่เสมอ มาเองเลยนะครับ!

นอกจากนี้เรายังได้พิธีกรสุดขี้เล่นที่คุ้นเคยกันดี หากใครที่อยู่ในวงการเกี่ยวกับเกม หรือการ์ตูนอย่าง คุณโปจิ - ทักษพล ศรีวชิราวัฒน์ มาเป็นพิธีกรในงานครั้งนี้ด้วยนะ ฮั่นแน่! ได้ยินแค่นี้ก็สนใจแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอยากรู้ว่าพวกเขามาพูดคุยอะไรกันบ้าง ก็ไปดูกันได้เลยครับ!

DSC01372.JPG

คุณโปจิ - ทักษพล ศรีวชิราวัฒน์ ผู้เป็นพิธีกรงาน “รวมพลคน NED” ในครั้งนี้

เสวนาดราก้อนบอลประสาแฟนพันธุ์แท้ กับแอดมินเพจ“ดราก้อนบอล[Dragon Ball]”

เริ่มต้นที่เรื่องดราก้อนบอลก่อนเลย คุณโป้ได้ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องราวความชอบดราก้อนบอลของตัวเองว่าตนเองชอบดราก้อนบอลมาตั้งแต่เด็กๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดราก้อนบอลบูมสุดๆ ในบ้านเรา ถึงขนาดที่นักเรียนแห่กันไปที่ร้านหนังสือการ์ตูนหน้าโรงเรียนตอนเช้า เพื่อรอซื้อดราก้อนบอลฉบับใหม่เลยทีเดียว และแม้แต่คนในบ้านของเขาเองก็ติดดราก้อนบอลด้วยเหมือนกัน ทำให้เขาได้ชื่นชอบดราก้อนบอลติดตามคนอื่นๆ ไปด้วยเช่นกัน

DSC01392.JPG

คุณโป้ - พงศกร ศิริกำเนิด แอดมินเพจ ดราก้อนบอล [Dragon Ball]

ซึ่งสาเหตุที่เขาชอบดราก้อนบอลมากๆ คุณโป้ได้อธิบายว่า เพราะดราก้อนบอลเป็นการ์ตูนแนวบู๊เรื่องแรกๆ ที่ฉายในประเทศไทย พอเขาได้ดูแล้ว เขาก็ชอบมาก ถึงขนาดที่ว่าต้องดูซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งดูก็ยิ่งชอบไปอีก มันทำให้เขาดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ จนทำให้ได้ซึมซับความรู้สึกจากการดูดราก้อนบอลหลายอย่างๆ อย่างเลยทีเดียว ความชื่นชอบดราก้อนบอลของเขา ได้ทำให้เขากลายเป็นแอดมินประจำเพจ “ดราก้อนบอล [Dragon Ball] โดยทำหน้าที่ดูแลในส่วนของการแปลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับดราก้อนบอลจากทางประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ทำให้เขาไม่พลาดข่าวสารใหม่ๆ จากดราก้อนบอลด้วย

หลังจากที่ได้พูดถึงความโด่งดังของดราก้อนบอลในสมัยก่อนแล้ว คุณโป้ยังได้กล่าวถึง ดราก้อนบอล ซุเปอร์ ซึ่งเป็นดราก้อนบอลภาคใหม่ล่าสุด ณ ตอนนี้ ว่าเป็นภาคที่ดังมากๆ ดังขนาดที่ว่าหลายประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ต้องปิดถนนแห่กันมาดูดราก้อนบอล ซูเปอร์ตอนสุดท้ายกันเป็นหมื่นๆ คนด้วยนะ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย แสดงให้เห็นว่าดราก้อนบอลเป็นการ์ตูนที่ถึงแม้จะมีอายุอานามถึง 30 กว่าปีแล้ว แต่ความโด่งดังก็ยังคงขยายออกไปเรื่อยๆ คุณโป้ยังได้แอบบอกว่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนไม่รู้จักดราก้อนบอลมาก่อน และอยากรู้ว่าทำไมดราก้อนบอลถึงโด่งดังขนาดนี้ ก็อยากให้ลองหามาอ่านดูซักครั้งอีกด้วยนะ แล้วจะรู้ว่าตำนานที่แท้จริงเป็นยังไง

และปิดท้ายด้วยการโปรโมต Dragon Ball Ultimate-Edition Boxset สินค้าพรีเมี่ยมที่ได้เปิดให้จองในภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 ที่คุณอุ๊แซวว่าเหมือนแต๊ะเอียที่เขาให้ตามเทศกาลตรุษจีน (ฮา) ซึ่งคุณโป้ได้ทิ้งท้ายเกี่ยวกับ Boxset นี้ไว้ว่า ”ถ้าหากเป็นแฟนดราก้อนบอลตัวจริง ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง นี่ไม่ใช่หนังสือการ์ตูนธรรมดา แต่มันคือตำนาน มันคือสมบัติอันล้ำค่าที่สามารถตกทอดไปยังรุ่นหลังๆ เพื่อที่จะส่งต่อถึงประสบการณ์ดีๆ ไปยังรุ่นหลานเหลน จากการ์ตูนในตำนานอย่างดราก้อนบอลได้

DSC01410.JPG

Dragon Ball Ultimate-Edition Boxset ที่เปิดให้จองภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้ง 47 เท่านั้น

เจาะลึกปริศนาถึงที่มาของคำว่า “โอ้โฮเฮะ” กับผู้แปล “นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ”

มาต่อกันด้วยการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่แม้ว่าจะมีอายุน้อยกว่าดราก้อนบอล แต่ความโด่งดังก็จัดว่าอยู่ระดับตำนานไม่แพ้กันเลย อย่าง “นารูโตะ นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ” ที่แค่ชื่อเรื่องภาษาไทยก็ทำเอาทุกคนสงสัยว่า ทำไมถึงต้องชื่อ “โอ้โฮเฮะ” กันล่ะ? ซึ่งคำถามดังกล่าวกลายเป็นวาระแห่งชาติเลยทีเดียว ถึงขนาดที่ว่ามีคนตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Pantip กันเลยทีเดียวว่าทำไมกันนะ ถึงต้องเป็น “โอ้โฮเฮะ”?

แน่นอน ทุกคำถามย่อมมีคำตอบ ในงานรวมพลคน NED ได้มีคำตอบไว้ให้เรียบร้อยแล้วว่าทำไม คุณอุ๊ ได้ออกมาเฉลยภายในงานครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่จึงถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเปิดเผยจากผู้แปลโดยตรงถึงการตั้งชื่อเรื่องว่า “นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ”

DSC01431.JPG

คุณอุ๊ – อิศเรศ ทองปัสโณว์ อดีตกองบรรณาธิการนิตยสาร Boom และผู้แปล “นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ” และเรื่องอื่นๆ

คุณอุ๊ได้อธิบายว่า สาเหตุที่ต้องตั้งชื่อว่า “โอ้โฮเฮะ เพราะเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ สมัยที่เขายังทำงานให้กับ NED เขาจำเป็นต้องรีบเลือกเรื่องที่จะขอลิขสิทธิ์ในระยะเวลาที่จำกัดจากนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump ของญี่ปุ่น และเขาก็ได้ไปเจอกับเรื่องนารูโตะ ซึ่งตอนนั้นคุณอุ๊มีโอกาสได้อ่านนารูโตะเพียงแค่ 3 ตอนเท่านั้น และต้องคิดชื่อเรื่องแบบภาษาไทยสำหรับการขอลิขสิทธิ์ด้วย ด้วยความที่ช่วงแรกๆ ของนารูโตะที่มีการนำเสนอออกมาในลักษณะของการ์ตูนแก๊ก ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นการ์ตูนแก๊กที่ “โอ้โฮเฮะ” มาก จึงตั้งชื่อเรื่องว่า “นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ” ซะเลย คุณอุ๊ให้เหตุผลว่าชื่อนี้มันโดนมาก มันได้อารมณ์ของการ์ตูน และช่วยดึงความสนใจให้กับคนอ่านเกิดความสนใจอีกด้วย

แต่ทว่าในภายหลังจากที่อ่านนารูโตะไปจนถึงตอนที่ 25 และพบว่ามัน “โอ้โฮเฮะ” จริง กลายเป็นการ์ตูนแนวต่อสู้จริงจังไปแล้ว มันทำให้คุณอุ๊รู้สึกว่า “ไม่น่าเลย” ไม่น่าตั้งชื่อว่าโอ้โฮเฮะเลยจริงๆ แต่โดยรวมแล้ว นารูโตะยังคงเป็นการ์ตูนที่ดูแล้ว “โอ้โฮเฮะ” อยู่นะ ในแง่ของความตื่นตาตื่นใจ ความเยาว์วัยในเนื้อเรื่อง จนทำให้เขาเองก็รู้สึกสองจิตสองใจว่าตกลงยังควรใช้ชื่อว่า “โอ้โฮเฮะ” อยู่ดีไหม (แต่แหม อย่างน้อยคุณอุ๊ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้ชื่อการ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้อ่านแบบสุดๆ แล้วละครับ อิอิ)

นอกจากนี้ คุณอุ๊ยังได้เปิดเผยถึงตัวละครที่เขาชอบมากที่สุด ซึ่งมี 3 ตัว ตัวแรกคือ “จิไรยะ” เขามองว่าเป็นตัวละครที่เป็นถึงเซียน คือมีความเก่งและสูงส่ง แต่ด้วยนิสัยและลักษณะตัวละครของจิไรยะ ทำให้เขารู้สึกว่าจิไรยะเป็นตัวละครที่เข้าถึงได้ง่าย ตัวต่อมาคือ “สึนาเดะ” คุณอุ๊ให้เหตุผลว่าเขาชอบเพราะลักษณะท่าทางของตัวละครคล้ายกับหัวหน้าคนหนึ่งที่เขานับถือ และส่วนหนึ่งคือเขาชอบนิสัยนิสัยของสึนาเดะด้วย และตัวสุดท้ายคือ “คาคาชิ” เขาให้เหตุผลว่า คาคาชิเป็นตัวละครอยู่กึ่งกลางระหว่าง จิไรยะ และสึนาเดะ คือเป็นตัวละครที่มีทั้งความทะลึ่งตึงตัง และความซีเรียสอยู่ในตัวคนเดียว นอกจากนี้คุณอุ๊ยังได้บอกว่าชอบก๊วนเด็กโคโนฮะด้วย เพราะมันทำให้เขารู้สึกถึงความสนุกของเด็กๆ ซึ่งสอดคล้องกับความเยาว์วัยของการ์ตูนเรื่องด้วยนี้

และปิดท้ายด้วยการโปรโมต “Naruto Boxset” อีกหนึ่งสินค้าพรีเมี่ยมที่วางจำหน่ายภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 คุณอุ๊ได้ให้ความเห็นส่งท้ายก่อนปิดงาน "รวมพลคนNED" เกี่ยวกับ Boxset ตัวนี้ว่า “เด็กที่จะได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ คือเด็กวัย Shonen วัย Shonen เป็นวัยที่สวยงามที่สุด ในชีวิตคนไม่มีวัยไหนจะจดจำได้เท่าวัยShonen และก็ความพิเศษสุดของเรื่องราวทั้งหลายแหล่ที่อยู่ในช่วงวัยตรงนั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปชั่วชีวิตเลยนะ คือผมขอกระแดะนิดนึงเลยละกัน ผมเรียกมันว่า “Personal History Milestone” คือ หลักกิโลเมตรของประวัติศาสตร์ส่วนตัว แล้วก็เวลาที่พวกเรามาเจอการ์ตูนพวกนี้อีกครั้งหนึ่งในตอนที่พวกเราโตขึ้นมาเนี่ย พอเปิดอ่าน มันไม่ใช่ความสนุกของการ์ตูน มันเหมือนได้เจอเพื่อนเก่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละตอนๆ มันไปผูกพันกับความหลังเก่าๆ ที่เราเคยเจอ…ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า懐かしさ(Natsukashisa) ซึ่งผมยังหาคำแปลเหมาะๆ ให้มันไม่ได้ ส่วนฝรั่งเรียกว่า bitter sweet คือกึ่งสุขกึ่งเศร้ามันปริ่มเข้ามา”


เข้าเนจาวูกับเพื่อนๆ สนุกกว่าแน่นอน