สำหรับใครที่กำลังมองหาการ์ตูนสายดาร์กสุดหลอน แหวกแนวจากการ์ตูนเดิมๆ ที่เคยอ่านอยู่ล่ะก็ วันนี้ขอพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับซีรีส์รวมเรื่องสั้นอย่าง “Black Humor” ผลงานจากปลายปากกาของอาจารย์ Fujiko Fujio Ⓐ หรือ อาจารย์อาบิโกะ โมโตโอะ เจ้าของผลงานสุดน่ารักอย่าง "โดราเอมอน" และ "นินจาฮัทโตริ" โดยซีรีส์นี้อัดแน่นด้วยเรื่องราวสุดลี้ลับ ตลกร้าย เสียดสีสังคมเอาไว้ในเรื่องสั้นถึง 40 ตอน ซึ่งเคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Big Comic Special ตั้งแต่ปี 1968 แล้วนำมารวบรวมเป็นมังงะจำนวน 2 เล่ม โดยมีจำนวนหน้ารวมกันกว่า 800 หน้าเลยทีเดียว แบ่งเป็น
🖤 Black Humor เล่ม 1 ตอน เซลส์แมนทมิฬ
🖤 Black Humor เล่ม 2 นักพนันไร้เดียงสา
ว่าแต่อยากรู้ไหมว่ามีอะไรเด็ดดวงรออยู่ในซีรีส์นี้บ้าง งั้นมาอ่านรีวิวฉบับนี้กัน รับรองว่าถูกใจเพื่อนๆ แน่นอน และยิ่งถ้าใครที่เป็นแฟนคลับผลงานของอาจารย์ Fujiko Fujio Ⓐ หรือชื่นชอบการ์ตูนแนวหักมุมสุดหลอนแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าไม่มีไม่ได้แล้ว!! ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาเลย
1.ลายเส้นคุ้นตาจากนินจาฮัทโตริ แต่เนื้อเรื่องดาร์กสุดๆ
นอกจากลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ Fujiko Fujio Ⓐ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีแล้ว อาจารย์ยังเพิ่มเทคนิคการวาดภายในเรื่องให้ดูแปลกตามากขึ้น ทั้งการวาดตัวละครให้สมจริง ดูคล้ายคลึงกับผู้คนที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน, การจับบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง “ฮิตเลอร์” มาวาดใหม่ให้เป็นลายเส้นของตัวเอง รวมทั้งการใช้เทคนิคภาพพิมพ์สมัยเก่าเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ใส่ลงไปในหลายๆ ฉาก เพื่อเพิ่มความน่ากลัวและสมจริงให้แก่ตัวละครหรือสถานที่เหล่านั้นอีกด้วย ทำเอาขนลุกไม่หยุดเลย
2.พล็อตเรื่องไม่เชย ถึงแม้จะผ่านมานานแล้วก็ตาม
ถึงแม้ว่าในหลายๆ เรื่องจะเต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับชวนสยองมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่น่ากลัวเท่าด้านมืดในใจของมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งอาจารย์อาบิโกะก็ได้หยิบเรื่องราวที่พบได้ในสังคมญี่ปุ่นที่แม้จะผ่านมานานแล้วแต่ปัจจุบันก็ยังเจออยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ก้าวเข้าสู่วัยทำงาน, วัฒนธรรมแปลกประหลาดที่คนทั่วไปไม่ทำกัน รวมทั้งความผิดปกติทางจิตของคนกลุ่มหนึ่งที่นำมาสู่โศกนาฏกรรมต่างๆ แล้วนำมาผสมกับเรื่องอื่นๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป อย่างเช่นศิลปะ, ดนตรี, อาหาร ฯลฯ จนกลายเป็นเรื่องสั้นสุดดาร์ก 1 เรื่องได้อย่างลงตัว ยกตัวอย่างเช่น ภาพปราสาทแห่งพิเรนีส ของเรอเน มากริด ที่ถูกนำมาเป็นต้นเหตุของเรื่องราวสุดพิลึกพิลั้นของชายหนุ่มจิตไม่ปกติ ในตอน "ศิลามากริต" นั่นเอง
3.แปลโดยพี่อุ๊ อิศเรส จากผู้แปล "นารุโตะ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ"
ถึงแม้ในเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับวงการการพนันที่ทั้งเยอะและดูเข้าใจยาก แต่พี่อุ๊ “อิศเรส ทองปัสโณว์” นักแปลมากฝีมือซึ่งเคยฝากผลงานเอาไว้ใน “นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ” ก็แปลเรื่องพวกนี้ให้กลายเป็นเรื่องง่าย อ่านแล้วรู้สึกสนุกและลุ้นไปกับตัวละครเหล่านั้นเลยล่ะ ส่วนคำพูดหรือปฏิกิริยาของตัวละครต่างๆ พี่อุ๊ก็แปลออกมาได้เป็นธรรมชาติสุดๆ อ่านแล้วประทับใจมากๆ
4.จะสุขก็มี จะเศร้าก็มา จะฮาก็ได้ ไม่ได้ขายความดาร์กเพียงอย่างเดียว
หลังจากอ่านจบในแต่ละตอนแล้ว ก็รู้สึกสุขใจที่ได้เห็นตัวละครผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตามีแรงฮึดขึ้นอีกครั้ง เศร้าใจเพราะเห็นตัวละครดีๆ ต้องเจอเรื่องร้ายๆ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย หรือแม้กระทั่งรู้สึกสะใจที่ได้เห็นคนไม่ดีได้รับผลกรรมที่ได้ทำไว้ จากที่กล่าวมาทั้งหมดก็ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ชื่นชอบประจำปีนี้ไปเลยยยย 😊
มาสัมผัสความดาร์กขั้นสุดของมนุษย์กันได้แล้ววันนี้ใน e-Book Black Humor 2 เล่มจบ ราคาเล่มละ 125 บาท วางขายแล้ววันนี้ที่
meb >> https://bit.ly/2ApLRId
ookbee >> https://bit.ly/2z1wt4D
play store >> http://wow.in.th/ESdJ
*ดาวน์โหลดผ่านระบบ ios ราคาเล่มละ 149 บาท
*รูปแบบเล่มรอติดตามประกาศอีกครั้งทางหน้าเพจ NED Club ได้เลยยยย