ว่ากันว่าภายในเวลาอีกไม่น้อยไปกว่า 15 ปี 'เอไอ' ( Artificial intelligence -AI ) หรือ 'เครื่องจักรกลสมองอัจฉริยะ' จะสามารถเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้มากถึง 50% แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกยิ่งนักเพราะในขณะที่อัตราการเติบโตของประชากรมนุษย์มีแต่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปีมนุษย์กลับยิ่งสร้างเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถมาทำงานแทนพวกเขาได้ดีขึ้นตามไปด้วย จนทำให้เกิดคำถามมากมายขึ้นว่าแล้วอย่างนี้ในอนาคต อาชีพการงานของพวกเราจะไม่ถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกลกันหมดหรือ
อย่างไรก็ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมานักวิเคราะห์ได้ทำการค้นคว้าวิจัยผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆนานามากมายก่อนที่จะได้ข้อสรุปตรงกันว่ามีอาชีพอยู่สี่แขนงที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่เครื่องจักรสมองกลก็จะไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เลยในจุดนี้ ซึ่งมีอาชีพอะไรบ้าง มาดูกันเลย
การทำงานฌาปนกิจทำให้เราต้องรับมือกับความเศร้าของผู้คนหลาย 10 หรือแม้กระทั่งหลาย 100 คนที่อยู่ต่อหน้าเรา และก็คงจะมีแต่มนุษย์นี่แหละที่จะสามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อกันได้
นักจิตวิทยาและนักบำบัด เป็นอาชีพที่จำเป็นมากในยุคนี้สมัยนี้ เนื่องจากโลกและภาคธุรกิจมีการแข่งขันสูงทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย การเข้ารับการบำบัดจากนักจิตวิทยาที่เป็นมนุษย์ ซึ่งมีทั้งน้ำเสียง พลัง และกริยาท่าทางการแสดงออก จึงสามารถกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นได้ อย่างที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้
ถ้าพูดถึงแต่เรื่องความฉลาดหลักแหลมซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ใดผู้หนึ่งได้กลายเป็นผู้นำใน ในจุดนี้เราเชื่อว่าหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรสมองกลน่าจะมีไม่แพ้มนุษย์ แต่ต้องไม่ลืมได้ว่าการเป็นเจ้าคนนายคนมันมีมากกว่านั้นเพราะเราต้องปฏิสัมพันธ์กับคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเราอยู่ตลอดเวลารวมไปถึงการให้คำแนะนำและแสดงความเห็นอกเห็นใจอยู่เสมอด้วย
หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า HR (Human Resource Management) นอกจากจะต้องเป็นตำแหน่งที่ใช้ทักษะในการอ่านความสามารถและความคิดของผู้คนให้ขาดแล้วเรายังต้องคอยรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรและแสดงอารมณ์ร่วมต่อปัญหานั้นหรือช่วยกันขบคิดหาวิธีแก้ปัญหาด้วย